นิยมใช้มากในงานอุตสาหกรรมทั่วไป อุตสาหกรรมขุดเจาะน้ำมัน อุตสาหกรรมอาหาร และอุตสาหรรมการเกษตร ในอุตสาหกรรมเกษตรนิยมใช้รักษา และยืดอายุผลผลิตทางการเกษตร เช่น ผัก ผลไม้ สำหรับอุตสาหกรรมอื่นๆนิยมใช้ เป็นสารดูดซับความชื้นหรือดูดซับน้ำออกจากตัวทำละลาย ในอุตสาหกรรมอาหารบางชนิด นิยมใช้แคลเซียมคลอไรด์เพื่อเพิ่มรสชาติ และสกัดโปรตีนออกจากเนื้อ เช่น การผลิตไส้กรอก การผลิตเนื้อหมัก และในงานก่อสร้างยังใช้ในงานเทคอนกรีตเป็นสารเร่งการแข็งตัว เป็นต้น
แคลเซียมคลอไรด์ (CaCl2) มีลักษณะเป็นผลึกสีขาว ใช้มากในงานอุตสาหกรรมทั่วไป อุตสาหกรรมอาหาร และอุตสาหกรรมการเกษตร เป็นสารที่ดูดซับความชื้น และละลายได้ดีในน้ำ เมื่อละลายน้ำจะเกิดกรดไฮโดรคลอริก และเกิดแคลเซียมประจุบวก มักใช้ในรูป CaCl2.2H2O หรือ CaCl2.6H2O
ลักษณะจำเพาะ (ประหยัด, 2546)(1)
– สถานะ : ของแข็ง สีขาวเงิน
– จุดหลอมเหลว : 851 องศาเซลเซียส
– ความร้อนในการหลอมเหลว : 2.23 kcal/mol
– จุดเดือด : 1,482 องศาเซลเซียส
– ความร้อนในการกลายเป็นไอ : 36.7kcal/mol ที่ 1,482 องศาเซลเซียส
– ความหนาแน่น : 1.54 g/cc ที่ 20 องศาเซลเซียส
– ความร้อนเมื่อเผาไหม้ : 151.9 cal/g
– ละลายได้ดีในน้ำ ได้กรดแก่ ไฮโดรคลอริก ดังสมการ
พิษแคลเซียมคลอไรด์
– สามารถกัดกร่อนโลหะให้เกิดสนิม หากใช้ในงานเทคอนกรีตมักทำให้คอนกรีตมีการหดตัว และคอนกรีตมีความต้านทานซัลเฟตลดลง
– สารละลายมีฤทธิ์เป็นกรด (กรดไฮโดรคลอริก) ทำให้เกิดการระคายเคืองเมื่อสัมผัส ทั้งบริเวณผิวหนัง และตา หากสัมผัสกับสารละลายที่มีความเข้มข้นมากจะทำให้เกิดอาการระคายเคืองอย่างรุนแรงทำให้เนื้อเยื่อบริเวณนั้นตายได้
– การใช้แคลเซียมคลอไรด์ในผลิตภัณฑ์ผัก ผลไม้ และอาหารทุกชนิด อาจมีการตกค้างของคลอรีนทำให้เกิดความเป็นพิษได้ นอกจากนั้น ผลของการตกค้างของคลอรีนมักทำให้อาหารมีกลิ่นไม่น่ารับประทาน และมีรสขม
ข้อควรระวังในการใช้
1. ขณะใช้ต้องสวมผ้าปิดจมูก แว่นตากันสารเคมี สวมเสื้อผ้า รองเท้าบูท สวมถุงมือ และอุปกรณ์ป้องกันสารเคมีอื่นๆทุกครั้ง
2. เมื่อละลายน้ำไม่ควรสูดดม เพราะจะได้รับไอระเหยของคลอรีนได้ง่าย
3. ระวังการสัมผัสกับโลหะทุกชนิด เพราะจะเกิดการกัดกร่อน
– งานเทคอนกรีตนิยมใช้แคลเซียมคลอไรด์เป็นสารเร่งการแข็งตัว และเพิ่มกำลังรับแรงอัดของคอนกรีตในช่วงอายุต้นๆ
– สารละายแคลเซียมคลอไรด์นิยมใช้รักษา และยืดอายุผลผลิตทางการเกษตร เช่น ผัก ผลไม้หลายชนิด โดยการฉีดพ่นสารละลายทั้งก่อน และหลังการเก็บเกี่ยว หรือจุ่มผลผลิตใน สารละลายโดยตรง
– ในอุตสาหกรรมบางชนิด นิยมใช้แคลเซียมคลอไรด์สำหรับดูดซับความชื้นหรือดูดซับน้ำออกจากตัวทำละลาย
– ในอุตสาหกรรมอาหารผลไม้กระป๋อง นิยมใช้แคลเซียมคลอไรด์เพื่อเพิ่มความกรอบให้แก่ผลไม้
– ในอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์ นิยมใช้แคลเซียมคลอไรด์เพิ่มความนุ่มของผลิตภัณฑ์เนื้อต่างๆ เช่น เนื้อโค เนื้อไก่ เป็นต้น
– ในอุตสาหกรรมบางชนิด นิยมใช้แคลเซียมคลอไรด์สำหรับสำหรับยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์ในอาหาร
– ในอุตสาหกรรมอาหารบางชนิด นิยมใช้แคลเซียมคลอไรด์เพื่อเพิ่มรสชาติ และสกัดโปรตีนออกจากเนื้อ เช่น การผลิตไส้กรอก การผลิตเนื้อหมัก
Pattarakan Corporation Co,. Ltd is a leading company of customer’s choice. As an organization who pay attention to high quality and International standard we strive to improve quality constantly and always emphasize on needs and satisfaction of our customers.
เลขที่ 99 อาคาร ซี.พี.ทาวเวอร์ นอร์ธปาร์ค ชั้น 12เอ ซอยงามวงศ์วาน 47 แยก 42 แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร 10210